ตรวจสอบลักษณะการลงทุนที่เหมาะกับคุณ

ก้าวแรกเมื่อคุณคิดจะวางแผนการลงทุน คุณต้องตัดสินใจว่าคุณจะลงทุนเพื่ออะไร เป้าหมายในการลงทุนของคุณอาจเป็นการตอบสนองความต้องการในระยะสั้น เช่น เตรียมเงินเพื่อดาวน์บ้าน หรือเพื่อเรียนต่อในระดับวิทยาลัยในปีหน้า หรือลงทุนเพื่อเป้าหมายในระยะกลาง เช่น ลงทุนเพื่อการศึกษาในระดับวิทยาลัยของลูกๆ คุณ ซึ่งจะมาถึงในอีก 8 - 9 ปีข้างหน้า หรือลงทุนเพื่อเป้าหมายในระยะยาว เช่น คุณลงทุนเพื่อการเกษียณในอีก 20 เป็นต้น

คุณมีเวลาเท่าไรในการลงทุน?  

ขั้นต่อไป คุณต้องพิจารณาว่าคุณมีเวลาในการลงทุนมาก น้อยแค่ไหน จนกว่าจะถอนเงินลงทุนออกมา ช่วงเวลาของคุณเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง เพราะจะสิ่งนี้ช่วยบอกให้รู้ว่า คุณมีระยะเวลาแค่ไหนที่จะให้เงินทำงานแทนคุณ หากคุณต้องการลงทุนเพื่อท่องเที่ยว เวลาในการลงทุนของคุณอาจไม่เกิน 4 ปีข้างหน้า หรือหากลงทุนเพื่อการศึกษาในอนาคตของลูกๆ คุณต้องลงทุนในระยะยาว บางทีอาจมากกว่า 10 ปีขึ้นไป นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมระยะเวลาถึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการลงทุน ทำไมการลงทุนในระยะสั้นถึงไม่มีประสิทธิภาพสำหรับเป้าหมายในระยะยาว เพราะการลงทุนที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จ ระยะเวลาสำหรับเป้าหมายในการลงทุนของคุณจะมีส่วนช่วยในการเลือกหน่วยลงทุนของคุณด้วย

คุณมีเงินทุนสำหรับการลงทุน มาก น้อย แค่ไหน?

ก่อนที่คุณจะตัดสินใจลงทุน คุณต้องประเมินก่อนว่าในปัจจุบันนี้คุณมีเงินมากน้อยแค่ไหน และในอนาคตคุณต้องการจะมีเงินเพิ่มขึ้นมากแค่ไหน เพราะสถานะทางการเงินของคุณนั้น ถือได้ว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่งในการกำหนดกลยุทธ์ในการลงทุน นอกจากนั้น ยังมีอิทธิพลต่อการเลือกชนิดของหน่วยลงทุนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ด้วย

คุณเป็นนักลงทุนประเภทไหน?

หลังจากที่คุณทราบถึงเป้าหมายและระยะเวลาในการลงทุนแล้ว เรื่องต่อมาคุIพิจารณาคือ คุณเป็นนักลงทุนแบบไหน หรือ คุณสามารถรับความเสี่ยงได้ในระดับไหน นั่นเอง ไม่ว่าการลงทุนแบบไหนที่คุณเลือก แน่นอนว่าย่อมมีความเสี่ยง และผลตอบแทนควบคู่กันเสมอ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการลงทุนจนกระทั่งคุณต้องการถอนเงินลงทุนด้วย ถ้าคุณเป็นนักลงทุนแบบทั่วๆ ไป คุณอาจลงทุนโดยเน้นการปกป้องเงินลงทุนสำหรับเป้าหมายระยะสั้น และ อาจเน้นในเรื่องของการเพิ่มมูลค่าเงินลงทุนสำหรับเป้าหมายในอนาคตที่ยาวนานกว่า