Main Menu
Call Center 02 635 1718
  • Switch Language
  • ไทย
  • Eng

รู้จักหน่วยลงทุน

หน่วยลงทุน คือ สินค้าทางการเงินของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ที่ได้จากการรวบรวมเงินทุนของนักลงทุน (เรียกว่า ผู้ถือหน่วยลงทุน) จำนวนมาก เพื่อนำเงินทุนไปลงทุนในหลักทรัพย์ต่างๆ เช่น ตราสารทุน ตราสารหนี้ หลักทรัพย์ในตลาดเงิน หรือตราสารเหล่านี้รวมกัน ซึ่งหลักทรัพย์เหล่านี้จะถูกบริหารจัดการโดยมืออาชีพแทนผู้ถือหน่วยลงทุน และผู้ถือหน่วยแต่ละคนจะถือครองสัดส่วนของเงินกองทุน และได้รับสิทธิ์จาก มูลค่าทรัพย์สินของกองทุนที่เพิ่มขึ้น เงินปันผล ดอกเบี้ย และสิทธิประโยชน์ต่างๆ แต่ผู้ถือหน่วยก็มีความเสี่ยงต่อการสูญเสียในมูลค่าของหน่วยลงทุนเช่นกัน

ประเภทของหน่วยลงทุนจะแบ่งตามวัตถุประสงค์การลงทุน เนื่องจากแต่ละหน่วยลงทุนมีวัตถุประสงค์การลงทุนที่เฉพาะเจาะจง เช่น การเติบโตของเงินทุน ป้องกันเงินลงทุน เพื่อรายได้ปัจจุบัน หรือรายได้ที่ยกเว้นภาษี ทั้งนี้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) ได้กำหนดประเภทของหน่วยลงทุนไว้ตามตราสารที่ลงทุนโดยละเอียด ซึ่งสามารถดูข้อมูลดังนี้

การลงทุนในกองทุนประเภทต่าง ๆ

Risk profile
ระดับความเสี่ยง
ประเภท
ประเภทหลักทรัพย์ที่ลงทุนเป็นหลัก
เสี่ยงต่ำ
1
กองทุนรวมตลาดเงินที่ลงทุนเฉพาะในประเทศ
- มีนโยบายลงทุนเฉพาะในประเทศไทย โดยลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งเงินฝาก หรือตราสารหนี้ หรือหลักทรัพย์ หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลอื่นตามที่สำนักงานกำหนด ซึ่งมีกำหนดชำระคืนเมื่อทวงถามหรือจะครบกำหนดชำระคืน หรือมีอายุสัญญาไม่เกิน 1 ปีนับแต่วันที่ลงทุนในทรัพย์สินหรือเข้าทำสัญญานั้น และมี portfolio duration ในขณะใดขณะหนึ่ง ไม่เกิน 3 เดือน
เสี่ยงปานกลาง ค่อนข้างต่ำ
2
กองทุนรวมตลาดเงิน
- มีนโยบายลงทุนในต่างประเทศบางส่วน แต่ไม่เกินร้อยละ 50 ของ NAV โดยลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งเงินฝาก หรือตราสารหนี้ หรือหลักทรัพย์ หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลอื่นตามที่สำนักงานกำหนด ซึ่งมีกำหนดชำระคืนเมื่อทวงถามหรือจะครบกำหนดชำระคืนหรือมีอายุสัญญาไม่เกิน 1 ปีนับแต่วันที่ลงทุนในทรัพย์สินหรือเข้าทำสัญญานั้น รวมทั้งมี portfolio duration ในขณะใดขณะหนึ่ง ไม่เกิน 3 เดือน
3
กองทุนรวมพันธบัตรรัฐบาล
- มีนโยบายเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ NAV
4
กองทุนรวมตราสารหนี้
- มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ทั่วไป
เสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง
5
กองทุนรวมผสม
- มีนโยบายลงทุนได้ทั้งในตราสารทุนและตราสารหนี้
เสี่ยงสูง
6
กองทุนรวมตราสารทุน
- มีนโยบายลงทุนในตราสารทุนเป็นหลักโดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของ NAV
7
กองทุนรวมหมวดอุตสาหกรรม
- มีนโยบายมุ่งลงทุนโดยเฉพาะเจาะจงในตราสารทุนเพียงบางหมวดอุตสาหกรรม โดยเฉลี่ยรอบระยะเวลาบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ NAV
เสี่ยงสูงมาก
8*
กองทุนที่มีการลงทุนในทรัพย์สินทางเลือก
- มีนโยบายลงทุนในทรัพย์สินที่เป็นทางเลือกใหม่ในการลงทุนหรือมีโครงสร้างซับซ้อน เข้าใจยาก เช่น commodity/gold fund /oil fund/derivatives ที่ไม่ใช่เพื่อ hedging ซึ่งรวมถึง ตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝงที่ไม่คุ้มครองเงินต้น

 

หมายเหตุ

  1. กรณีกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศที่ไม่ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ขายต้องเตือนผู้ลงทุนถึงความเสี่ยง FX ในทุกกรณี ไม่ว่าผู้ลงทุนจะมี risk profile อย่างไร
  2. การขายกองทุนประเภทเสี่ยงสูงมาก ผู้ขายจะต้องให้คำแนะนำแก่ผู้ลงทุนถึงลักษณะของกองทุนและความเสี่ยงโดยละเอียดในทุกกรณี

 

กรณีกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์การจัดระดับความเสี่ยงคำนึงถึงปัจจัยดังต่อไปนี้ประกอบด้วย

  1. ความเสี่ยงของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์จะอยู่ในระดับตั้งแต่ระดับ 4 ถึง ระดับ 8
  2. ประเภทของกองทุน freehold leasehold infrastructure fund เช่น กองทุน leasehold จะมีความเสี่ยงสูงกว่ากองทุน freehold ในเรื่องมูลค่าทรัพย์สินที่ลดลงตามอายุสิทธิการเช่าที่เหลืออยู่ หรือกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานจะมีลักษณะทรัพย์สินและเงื่อนไขในสัญญาจัดหาประโยชน์ที่ซับซ้อนกว่ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ จึงอาจมีความเสี่ยงสูงกว่า
  3. ทรัพย์สินที่ลงทุนสามารถหาประโยชน์ได้แล้ว หรือยังจัดหาประโยชน์ไม่ได้ (อยู่ระหว่างก่อสร้าง) ซึ่งหากยังจัดหาประโยชน์ไม่ได้จะมีความเสี่ยงสูงกว่า เนื่องจากอาจเกิดกรณี project delay หรือ cost overrun
  4. การแบ่งชนิดของหน่วยลงทุน (กอง infrastructure fund) เช่น หน่วยลงทุนชนิดคล้ายทุน (equity tranche) มีความเสี่ยงสูงกว่าหน่วยลงทุนชนิดคล้ายหนี้ (debt-liked tranche) ซึ่งมีลำดับสิทธิใกล้เคียงกับเจ้าหนี้
  5. track record ของอสังหาริมทรัพย์ที่ลงทุน โดยกรณีอสังหาริมทรัพย์ที่จัดหาประโยชน์มาช่วงเวลาหนึ่งแล้วจะมีลูกค้ารองรับอยู่ จึงทำให้ประเมินศักยภาพ ในการจัดหาประโยชน์ได้ง่ายกว่าและน่าจะมีความเสี่ยงในการจัดหาลูกค้าต่ำกว่าอสังหาริมทรัพย์ที่ยังไม่มี track record
  6. การมีผู้เช่าหลัก เช่น กรณีกองทุนปล่อยเช่าโดยตรงให้กับผู้เช่าหลายราย แม้จะมีโอกาสได้รับค่าเช่ามากกว่า แต่ก็มีความเสี่ยงจากการต่ออายุสัญญาเช่าหรือการจัดหาลูกค้ารายใหม่ มากกว่าการปล่อยเช่าให้แก่ผู้เช่ารายเดียวที่เป็นเจ้าของเดิมที่เช่าทรัพย์สินกลับจากกองทุน แล้วนำไปปล่อยเช่าช่วง
  7. ลักษณะการจัดหาประโยชน์ เช่น การกำหนดค่าเช่าคงที่/ผันแปร (สัดส่วนที่กองทุนจะได้รับ) ซึ่งจะมีผลกระทบโดยตรงต่อรายได้ของกองทุน
  8. ระยะเวลาของสัญญาเช่า และการต่ออายุสัญญาเช่า เช่น หากกองทุนมีสัญญาเช่าระยะยาวและจดทะเบียนการเช่า จะมีความเสี่ยงในการจัดหาผู้เช่าต่ำกว่ากรณีมีสัญญาเช่าระยะสั้น (ไม่เกิน 3 ปี)
  9. การค้ำประกันรายได้ และความสามารถของผู้ค้ำประกันในการปฏิบัติตามสัญญาค้ำประกัน เช่น การจัดให้มีหนังสือค้ำประกันที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์ที่มีอายุ การค้ำประกันและวงเงินครอบคลุมตลอดระยะเวลาค้ำประกัน (เช่น ระยะเวลาค้ำประกัน 3 ปี อายุหนังสือธนาคาร 3 ปี วงเงินเท่ากับผลรวมของรายได้ที่ ค้ำประกันตลอด 3 ปี) จะมีความเสี่ยงต่ำกว่าหนังสือค้ำประกันแบบปีต่อปี